จากภาพที่เราได้เห็นในนัดชิงชนะเลิศศึกลีก คัพ ระหว่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ที่ในช่วงต่อเวลาพิเศษใกล้จะถึงการยิงลูกจุดโทษ เกปา อาร์ริซาบาลาก้า นายด่านชองเชลซีมีอาการเหมือนตะคริวจะกินทำให้เขาแสดงอาการบาดเจ็บออกมา ทำให้ เมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือของทีมเตรียมที่จะเปลี่ยนเอา วิลลี่ กาบเยโร่ ลงสนามแทน แต่ปรากฏ เกปาแทนที่จะเดินออกจากสนามตามคำสั่งของผู้จัดการทีมกลายเป็นว่าเขาเถียงพร้อมแสดงสัญญาณชัดเจนว่าไม่ต้องการถูกเปลี่ยนออกจากสนามเล่นเอากุนซือชาวอิตาเลียนรายนี้ถึงกับฉุนขาดอยากระเบิดห้องแต่งตัวกันเลยทีเดียว
บทสรุปความขัดแย้งระหว่างซาร์กับเกปาที่ไม่ยอมเปลี่ยนตัวออก
ไม่ใช่แค่ซาร์รี่เท่านั้นที่ออกอาการฉุนเฉียวจนแทบจะเดินเข้าห้องแต่งตัว แต่จิอันฟรังโก โซล่า อดีตดาวเตะที่แฟนบอลรักและเทิดทูนซึ่งเข้ามาทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้จัดการทีมยังออกอาการโมโหเช่นกันกับกรณีของนายด่านค่าตัวแพงที่สุดในโลกรายนี้ เหตุเพราะการเป็นนักเตะไม่มีสิ่งไหนจะยิ่งใหญ่ไปกว่าสโมสรและคำสั่งของผู้จัดการทีม เมื่อใดก็ตามที่นักเตะประพฤติตนไม่เป็นไปตามความต้องการนั่นหมายถึงเขากำลังงัดข้อกับไม้ซุง จนสุดท้ายก็เป็นฝ่ายแมนฯ ซิตี้ ที่ยิงจุดโทษเอาชนะไปได้ แน่นอนว่าทุกอย่างถูกลงมายังตัวเขาแบบเต็มๆ กับการตัดสินใจไม่เชื่อฟังคำสั่งในครั้งนี้
อย่างไรก็ตามตามรายงานข่าวระบุว่าหลังซาร์รี่ได้มีการเปิดอกพูดคุยกับเกปาเรียบร้อยเรื่องราวทั้งหมดมันเป็นเพียงความเข้าใจผิดกันเท่านั้น กุนซือสิงห์อมควันระบุว่าเขาเข้าใจผิดคิดว่าเกปามีอาการบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหวเลยคิดจะเปลี่ยนกาบาเยโร่ลงไปแทน แต่เกปาบอกกับเขาว่ามันเป็นเพียงการถ่วงเวลาเพื่อให้ยืดไปถึงช่วงยิงจุดโทษเท่านั้น ไม่ได้มีอาการบาดเจ็บรุนแรงถึงขั้นต้องเปลี่ยนตัวออกแต่ประการใด เป็นอันว่าเรื่องราวนี้ในทางทฤษฎีเหมือนจะคุยกันลงตัวแต่ไม่รู้ว่าในแคมป์ฝึกซ้อมของทีมจะมีบรรยากาศอย่างไรเมื่อนักเตะงัดข้อไม่สนใจคำสั่งของกุนซือแบบนี้
หลายฝ่ายมองว่าสิ่งที่เกปาทำคือสิ่งที่ผิดอย่างมากเพราะเขามีมีสิทธิ์ทำตรงกันข้ามกับคำสั่งของผู้จัดการทีมอยู่แล้ว นั่นทำให้หลายคนกำลังมองไปยังอนาคตว่าระหว่างซาร์รี่กับเกปาใครจะอยู่ใครจะไปก่อนกัน ซึ่งตรงนี้เชื่อว่าช่วงจบซีซั่นหากมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นก็อาจมีฝ่ายหนึ่งต้องโบกมือลาถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ก็ได้