ทำเอาแฟนบอลฝั่งสิงห์บลูผิดหวังไม่น้อยกับคะแนนล่าสุดที่ออกมากับการแข่งขันบอลในนัดเจอกันระหว่างแมนยูที่ผลคะแนนออกมาแพ้ยับไปถึง 4 ประตู ทำเอาหลายคนเกิดความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับฟอร์มทีมของทีมมากฝีมืออย่างเชลซี ซึ่งสกอร์เกมที่เกิดขึ้นถือเป็นสกอร์ที่เกิดได้ค่อนข้างยากในแต่ละนัดเนื่องด้วยความสามารถและระดับฝีมือที่ใกล้เคียงกันของทั้งสองทีม แต่ผลกลับออกมาเป็นเช่นนี้ จึงทำให้เหล่าแฟนบอลต่างตั้งข้อสงสัยว่าทำไมผลจึงออกมาเป็นเช่นนี้ และในบทความนี้เราจะพาทุกท่านมาวิเคราะห์เกมที่เกิดขึ้นกันว่าเกิดจากตัวแปรและปัจจัยใดบ้าง ถ้าพร้อมแล้วเราก็มาไขข้อสงสัยไปพร้อมกันเลย
เรียกได้ว่าเป็นการเปิดฤดูกาลในสัปดาห์แรกของพรีเมียร์ลีกอย่างดุเดือดหลังผลคู่ใหญ่ในนัดเปิดสนามที่แมนยูได้ถล่มเชลซีไปถึง 4 ประตูต่อ 0 และก้าวขึ้นมาเป็นรองจ่าฝูงของกลุ่มอย่างลิเวอร์พูลทันที ถือว่าเป็นอีกครั้งหนึ่งที่แมนยูสามารถชนะเชลซีได้ด้วยสกอร์สูงมากขนาดนี้ เรียกได้ว่าทำลายสถิติที่เยมีมาเลยก็ว่าได้ ในรอบ 54 ปี ซึ่งอยู่ในยุคของผู้คุมทีมอย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่เป็นผลงานที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เขาได้มาคุมทีม เป็นหนึ่งในผลงานยอดแย่ในรอบหลาย 10 ปี ทางฝั่งแมนยูเรียกได้ว่ามาพร้อมความคมและโชคจึงสามารถเอาชนะเชลซีไปอย่างขาดรอย ทางด้านเชลซีจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในเกม ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่เขาได้ใช้เทคนิคการเล่นเกมแบบเร็วโดยการเร่งทำเกมจนทำให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นหลายต่อหลายจุด อีกทั้งในจังหวะยิงหลายครั้งก็ยังไม่เข้ากรอบประตูเลยไม่สามารถจบประตูสวย ๆ ให้กับทีมได้ แม้ว่าฝั่งแมนยูจะมีข้อผิดพลาดอย่างการเก็บบอลได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่อย่างไรก็ดีทางฝั่งเชลซีเองก็ไม่สามารถที่จะตีไข่แตกได้เช่นกัน โดยฝั่งแมนยูเองก็ได้โอกาสดีจากการได้จุดโทษและขึ้นนำไปก่อนอย่างสวยงาม หลังจากที่เชลซีไม่สามารถเจาะเกมในตอนแรกได้ทำให้เวลาผ่านไปแมนยูเริ่มติดเครื่องจึงได้โอกาสยิงในหลายต่อหลายลูก
เรียกได้ว่าทางฝั่งแมนยูถึงจะชนะขาดรอยแต่ก็ยังมีจุดผิดพลาดในเกมอยู่เช่นกัน แต่ถึงกระนั้นฝั่งเชลซีก็ไม่ได้ใช้โอกาสในตอนนั้นทำเกมตีไข่แตกทางฝั่งแมนยูได้ผลเกมจึงออกมาอย่างที่เห็น หลังจากนี้ก็ยังต้องตามดูกันต่อว่ารูปเกมของทั้ง 2 ทีมจะเปลี่ยนไปในรูปแบบไหน